วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

อยากได้ยินว่ารักกัน

อยากได้ยินว่ารักกัน


ร้องโดย ดา เอ็นโดรฟิน – อยากได้ยินว่ารักกัน
คำร้อง นิติพงษ์ ห่อนาค
ทำนอง ธนา ลวสุต




เนื้อเพลง

สิ่งที่ฉันไม่รู้ สิ่งที่ฉันไม่ค่อยรู้ ก็หัวใจของคน
อ่านหนังสือเล่มไหน วนเวียนวกวน แต่ไม่นานยังเข้าใจ
บอกให้ฉันรับรู้ บอกกับฉันว่าไม่รัก ไม่ขอเป็นเพื่อนใจ
แต่ถ้าฉันได้เห็น แววตาครั้งใด ไม่เหมือนคำที่พูดเลย

ใจคนเรายากเย็นเกินไป ไม่เห็นต้องทำให้ยากเลย
อย่างฉันก็ทำ ก็เป็นเหมือนอย่างเคย
บอกเลยจากใจ ว่า..รักเธอ

ปากเธอแข็งรู้ไหม แต่ว่าฉันก็รับไหว
ด้วยหัวใจที่รอ ได้แต่หวังสักครั้ง คำเดียวก็พอ
อยากได้ยินว่ารักกัน..

ใจคนเรายากเย็นเกินไป ไม่เห็นต้องทำให้ยากเลย
อย่างฉันก็ทำ ก็เป็นเหมือนอย่างเคย
บอกเลยจากใจ ว่า..รักเธอ

ปากเธอแข็งรู้ไหม แต่ว่าฉันก็รับไหว
ด้วยหัวใจที่รอ ได้แต่หวังสักครั้ง คำเดียวก็พอ
อยากได้ยินว่ารักกัน..

ปากเธอแข็งรู้ไหม แต่ว่าฉันก็รับไหว
ด้วยหัวใจที่รอ ได้แต่หวังสักครั้ง คำเดียวก็พอ
อยากได้ยินว่ารักกัน..
อยากได้ยินว่ารักกัน..



ตุ๊กตา บรายธ์






ประวัติตุ๊กตาบลายธ์ ตุ๊กตาบลายธ์ กำเนิด ตุ๊กตา blythe ที่มา ตุ๊กตา บรายธ์ ตุ๊กตา บลายธ์

ประวัติตุ๊กตาบลายธ์ประวัติตุ๊กตาบลายธ์ Blythe Doll คือ ตุ๊กตาวินเทจ (ตุ๊กตาเก่าแก่โบราณ ) ชนิดหนึ่งเลยทีเดียวในบรรดา ตุ๊กตาสะสมที่มีอยู่มากมาย หากจะย้อน ประวัติตุ๊กตาบลายธ์ นั้นต้องย้อนกลับไปที่อเมริกา หลักฐาน ประวัติของตุ๊กตาบลายธ์ อยู่ที่นั่นครับ บลายธ์ถูกออกแบบขึ้นที่โรงงานทำของเล่นของ เค็นเนอร์ Kenner โรงงานผลิตของเล่นในอเมริก






(ปัจจุบัน คือ Hasbro ) ทำการออกแบบและผลิตในปี พ.ศ.2515 (1972) เอกลักษณ์พิเศษของตุ๊กตาบลายธ์ คือ ตุ๊กตาหัวใหญ่ ตัวเล็ก ตาโต ขนตาเด้ง ที่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้า คอนแทคเลนส์ ใส่วิกผม ทำผม แต่งหน้า ที่สำคัญสามารถโมดิฟายด์ ตกแต่งใบหน้า เปลี่ยนชุดให้เหมือนเจ้าของตุ๊กตาบลายธ์ตัวนั้นได้ ตุ๊กตาบลายธ์ มีอายุกว่า 40 ปี (นับตั้งแต่เริ่มออกแบบ เรียกน้องบลายธ์ได้ไง อย่างงี้ต้องเรียกป้าบลายธ์ ) Kenner พยายามที่จะทำการสร้างตุ๊กตาบลายธ์ให้ต่างจากตุ๊กตาทั่วไปด้วย โดยได้กำหนดให้โมเดลตุ๊กตามี 4 แบบ ตั้งชื่อทั้ง 4 รุ่น ไว้ว่า Blythe, Karess, Willow และ Skye รวมทั้งยังสร้างแฟชั่นเครื่องแต่งกายกว่า 12 ชุด ให้กับน้องบลายธ์ทั้ง 4 รุ่น กิ๊บเก๋มากๆ เพราะสามารถเปลี่ยนทั้งทรงและสีผมได้ถึง 4 แบบ ดวงตากลมโตใหญ่กะพริบทีไร ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเป็น เขียว ชมพู ส้ม น้ำเงินสลับกันไปทุกครั้ง ส่วนเสื้อผ้า ก็มให้เปลี่ยนกันถึง 12 ชุด ให้กับตุ๊กตาบลายธ์

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

วาเลนไทน์




ประวัติวันวาเลนไทน์

กำเนิดวันวาเลนไทน์ เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน่ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน และในวันถัดมา คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม มีขนบธรรมเนียมอย่างหนึ่งของชายหนุ่มก็คือ การจับฉลาก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเริ่มต้นเทศกาลลูเพอร์คาร์เลีย ชื่อของเด็กสาวจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษและใส่ลงในไห ชายหนุ่มแต่ละคนจะจับฉลากเพื่อเลือกคู่ในเทศกาลเฉลิมฉลองนี้ บ่อยครั้งที่หนุ่มสาวต่างถูกใจกัน และแต่งงานกันในเวลาต่อมา
ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 แห่งโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องมาจาก ไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะนั้นเอง พระรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ซึ่งอาศัยอยู่ในโทรม ได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีของท่านนี้เอง จึงทำให้ท่านถูกตัดสินประหารชีวิตโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.270 ซึ่งตรงกับเทศกาลลูเพอร์คาร์เลีย ตามประเพณีโบราณพอดี ณ โอกาสนี้เอง กลุ่มคนนอกศาสนาได้รื้อฟื้นประเพณีจับฉลากขึ้นมาใหม่ โดยชายหนุ่มจะเป็นผู้เขียนชื่อหญิงสาวลงไปด้วยตัวเอง ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียม ที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

ของขวัญวันวาเลนไทน์ ของขวัญที่นิยม ของขวัญแทนใจวันแห่งความรัก
ดอกไม้ ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด ที่ฮิตสุดเห็นจะเป็น


กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย




กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา


กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน
ไม่จืดจาง หวานชื่น
ช็อกโกแลต นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก และรสชาติความหวานก็เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกวันแห่งความรักได้อย่างดี และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าในช็อกโกแลตมีสารช่วยกระตุ้นสมองโดยออกฤทธิ์คล้าย แอมเฟตามีน เป็นตัวเบิกทางความรู้สึกลึกๆแห่งรักได้ดี
การ์ด อันนี้เป็นของจําเป็นควบคู่ไปกับดอกไม้ และช็อกโกแลต เลือกตามแบบที่ชอบ เขียนความในใจตามแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในทันที แถมหาซื้อไม่ยากด้วย
ตุ๊กตา เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว แต่พิเศษสําหรับวันแห่งความรักคงต้องเลือกสรรให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์แล้วแต่คุณจะหยิบแบบไหน
เทียนหอม มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน
มื้อค่ำ ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ในบ้าน ร้านอาหาร หรือริมทะเล
กลอนซึ้งๆ

หวานรัก วาเลนไทน์
เสียงระฆังกังวานหวานหวานแว่ว
กระซิบแผ่วข้างกายคล้ายดั่งฝัน
Happy Valentine's ชื่นชีวัน
รักจอมขวัญน้องนุชสุดหัวใจ..

กุหลาบแดงแทนใจให้ที่รัก
เฝ้าฟูมฟักรักนี้ที่สดใส
บรรจงหอมแก้มน้องผ่องอำไพ
รัญจวนใจหวานชื่นทุกคืนวัน..

ขอทุกวันเป็นวันแห่งความรัก
ไม่ทายทักเพียงแค่วันที่ผ่านผัน
ขอความรักมากมายมากำนัล
แม้คืนวันผันผ่านเนิ่นนานไป..



วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

ภาวะโลกร้อน

ปัจจุบัน ประชาคมโลกให้ความสำคัญกับปัญหาที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยตระหนักว่า สิ่งแวดล้อมดีหรือไม่ดีล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนพลโลกกันถ้วนหน้า
ในประเทศไทยเอง ...เรื่องราวของการตรวจสอบมลพิษในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดก็กำลังเข้มข้น เป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

ในระดับโลก...ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อันมีสาเหตุจากปรากฎการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect)
โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นตัวการสำคัญ ก็กำลังได้รับความสนใจยิ่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ก็ได้ออกมาย้ำว่าคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ไอพีซีซี (IPCC) กำลังประชุมกันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อตรวจ (ร่าง) รายงานว่าด้วยเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณชนในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 นี้
รายงานดังกล่าว รวบรวมงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์2,500 คน จากกว่า 130 ประเทศ โดยใช้เวลาในการรวบรวมถึง 6 ปี

เนื้อหาเด่นของรายงานระบุว่า มีความเป็นไปได้อย่างน้อย 90 เปอร์เซนต์ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งเมื่อ 6 ปี ที่แล้ว รายงานระบุความเป็นไปได้อยู่ที่ 66 เปอร์เซ็นต์ (สรุปก็คือ รายงานได้เพิ่มความน่าเชื่อถือว่ามนุษย์เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โลกร้อน)

ในรายงาน ยังได้นำเสนอผลการประเมินแนวโน้มที่ว่า ในช่วงศตวรรษที่ 21 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2.0-4.5 องศาเซลเซียส
แม้หลายประเทศที่อยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร รวมทั้งประเทศไทยสัมผัสอากาศร้อนจนเคยชิน คนไทยหลายคนจึงไม่ค่อยตื่นตัวว่า “อุณหภูมิที่สูงขึ้นไม่กี่องศาที่เพิ่มขึ้นนั้น จะกระทบกับกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นอย่างไร?” แต่หลักฐานผลการวิจัยของปัญหาอันอาจมีสาเหตุจากโลกร้อนหลายชิ้นทั่วโลก ที่ทยอยเผยแพร่ออกมาในช่วง 2 –3 ปีที่ผ่านมา เช่น
- พืชอย่างดอกเชอร์รี่ และองุ่น ออกดอกและผลเร็วกว่าปกติ
- เพนกวินจักรพรรดิในทวีปแอนตาร์กติกหรือขั้วโลกใต้ มีจำนวนคู่ผสมพันธุ์ลดลงจาก 300 คู่ เหลือเพียง 9 คู่ - องค์การอนามัยโลกได้สำรวจการแพร่ระบาดของมาลาเรียในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่ามาลาเรียได้ขยายวงจากสามประเทศ ไปถึงรัสเซียกับอีก 6 ประเทศใกล้เคียง
และอีกหลายๆ ผลการวิจัย [น้ำท่วม คลื่นความร้อนสูง พื้นที่แห้งแล้ง ภูเขาน้ำแข็งละลาย (ที่กระทบต่อปริมาณน้ำทะเลและพื้นที่ชายฝั่ง) ฯลฯ ] ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาร่วมกันของประเทศไทยกับประเทศอื่นทั่วโลก
ภาวะโลกร้อนเกิดจากอะไร ?
ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) เป็นก๊าซที่มีคุณสมบัติในการดูดซับคลื่นรังสีความร้อน หรือรังสีอินฟาเรดได้ดี ก๊าซเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการรักษาอุณหภูมิในบรรยากาศของโลกให้คงที่ ซึ่งหากบรรยากาศโลกไม่มีก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ดังเช่นดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะแล้ว จะทำให้อุณหภูมิในตอนกลางวันนั้นร้อนจัด และในตอนกลางคืนนั้นหนาวจัด เนื่องจากก๊าซเหล่านี้ดูดคลื่นรังสีความร้อนไว้ในเวลากลางวัน แล้วค่อยๆ แผ่รังสีความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ทำให้อุณหภูมิในบรรยากาศโลกไม่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
มีก๊าซจำนวนมากที่มีคุณสมบัติในการดูดซับคลื่นรังสีความร้อน และถูกจัดอยู่ในกลุ่มก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีทั้งก๊าซที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญคือ ไอน้ำ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โอโซน มีเทนและไนตรัสออกไซด์ สารซีเอฟซี เป็นต้น แต่ ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกควบคุมโดยพิธีสารเกียวโต มีเพียง 6 ชนิด โดยจะต้องเป็นก๊าซที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ (anthropogenic greenhouse gas emission) เท่านั้น ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N20) ก๊าซไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFC) ก๊าซเพอร์ฟลูออโรคาร์บอน (PFC) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ (SF6) ทั้งนี้ ยังมีก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง คือ สารซีเอฟซี (CFC หรือ Chlorofluorocarbon) ซึ่งใช้เป็นสารทำความเย็นและใช้ในการผลิตโฟม แต่ไม่ถูกกำหนดในพิธีสารเกียวโต เนื่องจากเป็นสารที่ถูกจำกัดการใช้ในพิธีสารมอนทรีออลแล้

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกายอาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป เป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วย

โรคที่มากับคนที่ไม่ออกกำลังกาย
• กลุ่มโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจขาดเลือด
• โรคอ้วน
• โรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง
• โรคเครียด
• โรคภูมิแพ้
• โรคปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• โรคมะเร็ง

การเริ่มต้นออกกำลังกาย
หลายท่านไม่เคยออกกำลังมาก่อนเมื่อเริ่มออกกำลังอาจจะทำให้เหนื่อยง่าย วิธีที่ดีที่สุดของการเริ่มต้นออกกำลังกาย คือให้เริ่มออกกำลังกายจากกิจวัตรประจำวัน เช่น
• ใช้การเดินหรือขี่จักรยานเมื่อไปที่ไม่ไกล
• หยุดใช้รถหนึ่งวันแล้วใช้การเดินไปทำงานสำหรับผู้ที่บ้านและที่ทำงานไม่ไกล
• ใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน
• ขี่จักรยานรอบหมู่บ้าน
• ทำงานบ้าน เช่นทำสวน ล้างรถ ถูบ้าน

เทคนิคของการออกกำลังกายเป็นประจำ
• จะต้องตระหนักว่าการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตซึ่งจะขาดไม่ได้เหมือนการนอนหลับ หรือการรับประทานอาหาร
• เลือกการออกกำลังกายที่ชอบที่สุด และสะดวกที่สุด
• ครอบครัวอาจจะมีส่วนร่วมด้วยก็จะดี
• ช่วงแรกๆของการออกกำลังกายไม่ควรจะหยุด ให้ออกจนเป็นนิสัย
• บันทึกการออกกกำลังกายไว้
• หาเป็นไปได้ควรจะมีกลุ่มเพื่อออกกำลังกายร่วมกันเพราะกลุ่มจะช่วยกันประคับประคอง
• ตั้งเป้าหมายการออกกำลังและการรับประทานทุกเดือนโดยอย่าตั้งเป้าหมายสูงเกินไป
• ติดตามความก้าวหน้าโดยดูจากสมุดบันทึก
• ให้รังวัลเมื่อสามารถบรรลุเป้าหมาย(ห้ามการเลี้ยงอาหาร)
• ที่สำคัญการออกกำลังแม้เพียงเล็กน้อยดีกว่าการไม่ออกกำลังกาย

ออกกำลังกายอย่างปลอดภัย ถ้าหากท่านได้เตรียมความพร้อมที่จะออกกำลังกายแล้วอยากจะฟิตร่างกายท่านสามารถทำได้ทันที แต่หากมีอาการหรือโรคต่อไปนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฟิตร่างกาย
• ถ้าท่านอายุมากกว่า 45ปี
• หรือมีโรคประจำตัวเช่นโรคความดันโลหิตสูง
• โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง
• สูบบุหรี่
• หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
• มีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยมาก
• มีอาการหน้ามืด